'บ้านผาลั้ง' คือชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดหมายของการเดินทางในครั้งนี้
“บ้านผาลั้ง อยู่ตรงไหน เดินทางไปไกลไหม”
“เป็นไร่กาแฟของใครน้า”
“ทำไมถึงน่าสนใจ ที่นั่นมีอะไรเหรอ”
คำถามจากมิตรสหายและเหล่าลูกค้าประดังเข้ามาเมื่อรู้ว่าพวกเราจะไปสำรวจที่นี่กันในช่วงกลางเดือนกันยายน
เอาจริง ๆ เราก็รู้แค่ว่าบ้านผาลั้งอยู่เชียงราย ไม่ไกลจากบ้านปางขอน และที่นี่มีกาแฟที่น่าสนใจรอให้พวกเราได้ไปเชยชมอยู่
กาแฟผาลั้ง ของน้องพิม กาแฟที่ทำให้ร้อง ว้าว! ในครั้งแรกที่ได้ชิม
จุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเรารู้จักพื้นที่แห่งนี้ เกิดจากเราได้ชิมกาแฟผาลั้งจากไร่ของครอบครัวน้องพิมเป็นครั้งแรกในงานเสวนาเกษตรกรกาแฟ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกาแฟจากบ้านผาลั้งเป็นหนึ่งในกาแฟที่หลาย ๆ ท่านได้ชิมแล้วรู้สึก 'ว้าว' ขึ้นมาทันที มันน่าสนใจ! ด้วยทั้งตัวกาแฟเอง และจากข้อมูลที่ได้รู้มาว่าที่นี่กาแฟจะสุกรอบแรกในเดือนมกราคม
จากเดิมที่เราไม่เคยรู้จักสถานที่แห่งนี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นไร่กาแฟที่พวกเรามุ่งหมายอยากไปทำ ความรู้จักให้มากขึ้น เสมือนกับการค้นพบดินแดนใหม่เลย (ฮา)
ออกเดินทางสู่บ้านผาลั้ง
พวกเรานัดรวมตัวกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ร่วมทริป ที่บ้านปางขอน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอีกแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดี บ้านปางขอนอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงราย ขับรถเพียง 1 ชั่วโมงก็มาถึงบริเวณหมู่บ้านแล้ว ถนนดี เอารถอะไรขึ้นมาก็ได้
พวกเรานอนกันที่นี่ก่อนเดินทางไปยังบ้านผาลั้งพรุ่งนี้เช้า แน่นอนว่ากิจวัตรประจำวันของชาวกาแฟ คือ ดริปกาแฟชิมกัน เช่นเคย..ก่อนนอนเราก็ยังดริปกาแฟชิมกันอยู่ กาแฟดี...นอนหลับสบาย...ไม่มีคำว่าตาค้าง (ฮ่า ๆ)
ตื่นเช้ามาเจอกับบรรยากาศเมฆหมอกขาว ๆ พร้อมกับอากาศเย็น ๆ พวกเราทานอาหารมื้อเช้า ดริปกาแฟกัน หลังจากเติมพลังเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็พากันขึ้นรถกระบะเพื่อไปยังไร่กาแฟของครอบครัวน้องพิมในบริเวณบ้านผาลั้ง ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย โดยชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนชาวเย้า
พวกเราออกมาจากบ้านปางขอนประมาณ 9 โมงเช้า การเดินทางไปยังบ้านผาลั้งนั้น หากเป็นรถยนต์ต้องเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น เพราะเส้นทางเกือบทั้งหมดเป็นถนนดินและถนนลูกรัง และหากยิ่งเดินทางช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว ถนนหลาย ๆ ช่วงเป็นร่องลึก จึงควรเป็นคนพื้นที่ที่ขับรถเพราะมีความคุ้นเคยเส้นทางและความชำนาญกับพื้นที่เป็นอย่างดี
เดินทางมาเกือบครึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึงไร่กาแฟ ซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านผาลั้ง จากริมถนน เดินตามเส้นทางที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้เข้าไปไม่ไกล พวกเราก็มาถึงบริเวณไร่กาแฟ
เยี่ยมชมไร่กาแฟครอบครัวน้องพิม ณ บ้านผาลั้ง
ไร่แห่งนี้มีต้นกาแฟประมาณ 3,000 ต้น ค่อนข้างปลูกใกล้กัน แต่บางส่วนก็เว้นระยะห่างต้นได้ดี พื้นที่ปลูกมีความลาดชันบ้าง ที่นี่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,350 ถึง 1,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในวันที่มีแดดนั้นแดดจะส่องเข้ามาในบริเวณไร่เวลาประมาณ 9.30 - 16.00 น. แต่หากเป็นช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝนจะมีหมอกปกคลุมตลอดปี
กาแฟที่ไร่แห่งนี้จะค่อนข้างสุกช้ากว่าพื้นที่อื่นคือสุกช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม และไร่กาแฟแห่งนี้ทำโปรเสสเดียวคือ washed process
ได้มาเดินและสัมผัสไร่แบบใกล้ชิดแล้ว เรารู้สึกประทับใจต่อทั้งสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมด้านสังคม ที่นี่อากาศดี เย็นสบาย มีความเป็นธรรมชาติของบริเวณไร่ ต้นไม้ก็สวยงาม ดินก็ดูสุขภาพดี ครอบครัวน้องพิมให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีความสนใจและตั้งใจที่อยากพัฒนาคุณภาพกาแฟของตนให้ดีขึ้น ดูแล้วก็รู้สึกว่าถ้าเราเป็นต้นกาแฟ ที่นี่คงเป็นบ้านที่เราอยู่แล้วรู้สึกสบายและอุ่นใจที่จะอาศัยอยู่
เชอรี่ดอยที่น้องพิมเก็บมาให้ อร่อยมาก
เดินสำรวจไร่กาแฟพร้อมกับรับพลังธรรมชาติเติมเข้าสู่ใจแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถเดินทางต่อไปยังบริเวณชุมชนบ้านผาลั้ง ซึ่งที่นี่นั้นพวกเราได้มาชมบริเวณอนุบาลต้นกล้ากาแฟเพื่อเตรียมเอาไปปลูกต่อไป แล้วยังได้ไปชมจุดสีกาแฟและพื้นที่ลานตากเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและคำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการทำโปรเสส ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาคุณภาพของกาแฟให้ดีขึ้นแล้ว แต่ยังรวมไปถึงการทำกระบวนการและการจัดวางพื้นที่ที่ช่วยสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพและการใช้เวลาของผู้ทำโปรเสสอีกด้วย
อนุบาลต้นกาแฟ
ครอบครัวเล็ก ๆ กับความตั้งใจที่อยากพัฒนากาแฟให้มีคุณภาพ
นอกจากความรู้สึกดี ๆ ที่เรามีต่อทั้งการต้อนรับและดูแลอย่างอบอุ่นจากครอบครัวน้องพิม และความดีงามของไร่กาแฟที่ได้ไปสำรวจมานั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี ๆ กลับมา คือการที่เราได้ยินน้องพิมบอกว่าการไปฟังเสวนาที่สมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH) และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้จัดร่วมกันในครั้งนั้น ทำให้น้องได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการไร่และการทำโปรเสสกาแฟ นำมาซึ่งความสนใจในเรื่องนี้และอยากที่จะพัฒนาคุณภาพของกาแฟให้ดียิ่งขึ้น
พวกเราดีใจที่เห็นความสนใจและความตั้งใจของผู้ปลูกกาแฟที่จะร่วมเดินทางไปในเส้นทางนี้กับพวกเรา เพื่อพัฒนาคุณภาพกาแฟไทยให้ดีขึ้น เป็นเสมือนพลังบวกให้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีต่อไป
เราได้รู้จักบ้านผาลั้งในระดับหนึ่งแล้ว ต่อไปก็คงจะได้เข้าไปทำความรู้จักให้มากขึ้นอีกเรื่อย ๆ และร่วมกันพัฒนาการจัดการไร่และการทำโปรเสสกาแฟต่อ ๆ ไป
เจอกันใหม่อีกทีตอนฤดูหนาวนะ
——
เรื่อง: จอม อุไรพรรณ์
ภาพ: จอม อุไรพรรณ์
เรียบเรียง: admin บิ๊ก และ admin เอิง
Commentaires